Sunday, January 6, 2008

back to melbourne

ณ เมลเบิร์น
และแล้ว ช่วงเวลาแห่งความสุขก็ได้วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว แทบไม่น่าเชื่อว่า สามอาทิตย์ผ่านไปแล้ว คืนวันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2551 ก็ต้องเดินทางออกจากบ้านสายสี่ เพื่อเดินทางไป สนามบิน สุวรรณภูมิ ขึ้นเครื่อง มุ่งหน้าไปทำงานที่เมืองเมลเบิร์นและกลับมาเป็น น้าตู้ (เลียนแบบครูตู้)หรือ อีกนัยหนึ่งคือน้าสี่เหลี่ยมของธีร์อีกครั้ง (-"-) น้าเหลี่ยม ง่ะ ...

วันนี้เครื่องบินมาไวมาก ถึงก่อนกำหนดเวลาประมาณ 20 นาที ถึงประมาณ บ่ายโมงสิบนาที ใช้เวลาต่อแถวผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองก็เร็วอีกเช่นกัน ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็เสร็จ พอเดินไปถึงสายพานเอากระเป๋า กระเป๋าก็มาถึงพอดี แถมที่ตรวจกระเป๋าก็ยังไม่ค่อยมีคนอีก เดินไปถึงก็ตรวจได้เลย โชว์เส้นเล็กต้มแซ่บสามซองเสร็จก็เป็นอันเสร็จพิธี แถวรอแท๊กซี่ก็ไม่มีคน พอเดินไปถึงก็ได้ขึ้นเลย ทุกอย่างรวดเร็วมาก คาดว่า ใช้เวลาทั้งหมดตั้งแต่ลงเครื่องจนถึงอพาร์ทเมนต์นี่น่าจะประมาณ ชั่วโมงครึ่ง

พอมาถึงอพาร์ทเมนต์ ตั้งใจจะโทรกลับไปบอกหม่าม๊าว่ามาถึงแล้วก็โทรไม่ได้ เนื่องจากบัตรโทรศัพท์หมดอายุ แบตโทรศัพท์บ้านก็หมด ต้องรอชาร์จ เงินมือถือก็หมดอีกเช่นกัน นอกเหนือจากนั้น ห้องก็สกปรกมั่กๆ ฝุ่นเยอะสุดๆ เพราะเท่ากับว่า ไม่ได้ทำความสะอาดมาเกือบเดือน พอมาถึงเลยต้องดำเนินการเก็บกวาด เปลี่ยนผ้าปูนอน ชาร์จแบตโทรศัพท์บ้าน ทำโน่นทำนี่ กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบสามโมง พอทำโน่นทำนี่เสร็จ ก็นึกขึ้นได้ว่า ยังพอมี เครดิต Skype หลงเหลืออยู่บ้าง น่าจะใช้โทรหาแม่ได้ ก็เลย ตะรู๊ด ตรู๊ด ตรู๊ด เข้ามือถือหม่าม๊า เพื่อรายงานตัว พอโทรไปถึง ก็รู้ว่า วันนี้เค้าพาสมธีร์ไปลงหม้อสุกี้ MK เป็นครั้งแรก หลังจากที่น้องธีร์ ได้รู้จัก MK มาสักพัก พอเห็นโลตัสปุ๊บ ธีร์กะจะพูด MK เหมือนกับจะรู้ว่า ที่ไหนมี โลตัส ที่นั่นมี MK คุยได้ไม่นานเท่าไหร่ก็วาง เนื่องจากน้องธีร์บอกว่า ไม่คุยด้วย ธีร์กิน MK อยู่

หลังจากที่รายงานตัวเสร็จ ก็ออกเดินทางไป china town เพื่อหาอะไรใส่ท้อง นับว่ามื้อแรกของวัน ได้กินตอนสี่โมงเย็น เนื่องจากไม่ได้กินอะไรเลยบนเครื่อง เลยหิวโซ มุ่งหน้าไป ร้าน NamLoong ก่อนเลย กิน Special Fried Rice ข้าวผัดใส่ กุ้ง หมูแดงและไข่ อร่อยและถูก อิ อิ อิ ราคา 6 เหรียญแต่ปริมาณข้าวมหาศาล แต่วันนี้คาดว่าน่าจะเป็นเพราะความหิวโซรู้สึกตัวอีกทีก็กินเกือบหมดจาน (--") นี่ ถ้ากินหมดจานจะน่ากลัวมาก เพราะปริมาณข้าวนี่น่าจะเท่ากับข้าวผัดจานใหญ่ในเมืองไทยที่สั่งมาแบ่งกันกินหลายๆคน

หลังจากอิ่มอร่อย รอดตายไปอีกหนึ่งมื้อก็เดินทางไป ร้านขายบัตรเติมเงิน ที่ร้านเค้ามี package ซื้อบัตรเติมเงิน 30เหรียญ กับ calling card โทรกลับเมืองไทย 10 เหรียญ ในราคา 35.50 เหรียญ ก็เลย ซื้อ calling card กลับมาเก็บไว้ก่อน เผื่อจะมีโอกาสได้ใช้โทรกลับบ้านในโอกาสต่อไป พอเติมเงินเสร็จ ก็ต้องไปซื้ออาหารมาตุนไว้ในตู้เย็น เนื่องตอนก่อนจะกลับบ้าน กำจัดอาหารที่มีอยู่ในตู้เย็นจนเกลี้ยง พอกลับมาก็ต้องสต็อกของกลับเข้าไปใหม่ พอซื้อข้าวของเสร็จ ก็กลับมาที่อพาร์ทเมนต์ เพื่อที่จะซักผ้า ซักไปสักพัก น้ำท่วม (T_T) เนื่องจาก สายยางที่ต่อลงท่อน้ำทิ้งหลุด เลยต้องทำการถูห้องอีกรอบ (T_T) หง่ะ ... เหนื่อย

ดังนั้นวันนี้ ต้องขอลาไปนอนก่อนอย่างรวดเร็วเพื่อเติมพลัง เมื่อคืนบนเครื่องบินก็ไม่ค่อยได้นอน มีเด็กผิวดำหน้าตาไม่น่ารัก(อีกแล้ว) ร้องเป็นระยะ โกรธ โกรธ ไม่น่ารักแล้วยังทำโวยวาย ชิ ...

1 comment:

Anonymous said...

โห... ภารกิจเยอะมาก รันทดเจงๆ

หายปวดหลังไวๆนะค้าบ