Saturday, November 24, 2007

ยังมี

เธอเคยบอกว่าเธอไม่มีแม้ใครสักคนหนึ่ง

คงลืมว่าอย่างน้อยยังมีฉันไง

"วันใดที่เธอมีเพื่อนรุมล้อมเธอหรือยังมีใคร

เธอก็จะไม่เห็นฉันเลยคนดี"

แม้วันใดหัวใจเธอพ่าย จะมาแพ้ไปกับเธอ

และถ้ามีวันใดน้ำตาเธอเอ่อ จะร้องไห้เป็นเพื่อนกัน

หากเธอสมหวัง ในวันหนึ่ง

ให้รู้ว่าฉันยังยังแอบเห็นและชื่นชม

หากเธอท้อแท้ ฉันยังอยู่

"หากแม้นไม่เห็นฉัน จงโปรดรู้ไว้ว่าเธอใช่อยู่คนเดียว"

Wednesday, November 14, 2007

Priscilla Queen of the Desert The Musical

เห็นเมืองไทยมี CATS มีละครเวทีเรื่องบัลลังค์เมฆ มีละครเวทีเรื่องโน้นเรื่องนี้ที่อยากดูแล้วไม่มีโอกาสได้ไปดู ก็เลยถือโอกาส หาเรื่องไปดูเรื่อง Priscilla (http://www.priscillathemusical.com/) จริงๆเค้ามาแสดงที่ Melbourne ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปดูสักที เห็นพี่ที่ได้ไปดูมาแล้วโฆษณาว่าดีมากๆ เลยต้องหาโอกาสไปดูสักที และแล้ว ฤกษ์งาม ยามดี ก็ตกที่วันพฤหัสที่ 15 พฤศจิกายน ได้ตั๋วรอบสองทุ่มมาหนึ่งใบ หน้าตาเป็นเช่นนี้ตั๋วนี้เค้าส่งมาให้ทาง internet เป็น PDF format ให้ไป print (ที่บริษัท) เอาเอง แถมมีบอกวิธีการพับตั๋วให้ด้วย เรื่อง Priscilla นี้ จัดแสดงที่ Regent Theatre ซึ่งตั้งอยู่แบบไม่เด่นที่ถนน Collins ดูผ่านๆมันก็จะเป็นแค่ตึกๆนึง แต่ดูไม่ผ่าน ก็จะเห็นมีรองเท้าสีเงินแวววาวอยู่ข้างบน ซึ่งรองเท้าที่อยู่ข้างบนนั้นเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของละครเรื่อง Priscilla เลยก็ว่าได้
ส่วนข้างล่างนี้จะเป็นความวุ่นวายในโรงละคร
ตัวเนื้อหาก็จะเป็นการเดินทางจากซิดนีย์ไป Alice Spring ของสามคนนี้ระหว่างทางก็เกิดเรื่องราวมากมาย ไปอ่านเรื่องย่อเอาได้ทางเว็บไซด์ ... ให้ดูอีกหนึ่งรูป ถ่ายมาจากโปสเตอร์หน้าโรงละคร ผู้ชายในรูปเล่นเป็นช่างซ่อมรถส่วนรถที่เป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก เค้าโฆษณาไว้ว่า หนัก 6 ตัน ราคาค่าสร้างรถอุปกรณ์ประกอบฉากก็ประมาณ 1 ล้านเหรียญ AUD เท่านั้นเอง ... หุ หุ หุ ... มันก็ดูเจ๋งดี ... ส่วนเครื่องแต่งกายนี่ออกแบบโดย คนได้รับรางวัลออสการ์เลยนะ มิน่า มันดูอลังการงานสร้าง เว่อร์กว่าเจ๊ไก่เยอะแยะมากมาย ... ระหว่างแสดงเค้ามีการจิกกัดคนดูด้วย เช่นในตอนแรก เปิดเรื่อง เห็นคนมาสาย ก็มีจิกกัดว่า น่าจะซื้อนาฬิกามาฝากพวกนี้ แล้วเล่นๆไปก็มีการมาเชิญคนดู ขึ้นไปเต้นเป็นหมู่คณะบนเวทีด้วย ... โดยรวมๆแล้ว เรื่องนี้สนุกดี ทั้งร้อง ทั้งเต้น ที่สำคัญ ขนาดไม่ได้เอาแว่นไปก็ยังสามารถเห็นหน้านักแสดงได้อย่างใกล้ชิด นั่งเกือบจะชิดติดขอบเวที ... เพลงเรื่องนี้ ส่วนมากก็จะเป็นเพลงที่ค่อนข้างจะคุ้นเคย เช่น I will survive, I say a little prayer, I've never been to me, I love the nightlife, Always on my mind และ อีกมากมาย สรุปแล้ว เรื่องนี้สนุกดี

Sunday, November 11, 2007

เรือนไม้สีเบจ

... สวรรค์ส่งเรามาเกิดเพียงครึ่งเดียว ปล่อยอีกครึ่งหนึ่งของตัวเราไว้ที่ไหนก็ไม่รู้บนโลกกลมๆใบนี้ จิตวิญญาณของเรา จึงไขว่คว้าหาใครสักคนที่จะมาทำให้ชีวิตของเราเต็มบริบูรณ์ เสาะหา ติดตาม จนกระทั่งได้พบ ในวงแขนของกันและกัน ด้วยเหตุนี้ คนเรากอดตัวเองไม่พอ เราต้องกอดใครอีกสักคน แล้วให้เขากอดเราตอบ อ้อมแขนถึงจะสมบูรณ์ ...

- ว.วินิจฉัยกุล -

เย็นวันศุกร์

วันศุกร์ เป็นวันที่ดีที่สุดของวันที่ต้องไปทำงานในหนึ่งอาทิตย์ ดังนั้น ทุกวันศุกร์ บีก็จะเลิกงานประมาณ หกโมงเย็น และวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากน้องๆ ชวนบอกว่า พี่ เย็นวันศุกร์ ไปกิน ajisen กันมั้ย บีก็ตอบไปว่า ไม่เอาอ่ะ เบื่อญี่ปุ่นจะแย่ ไปกันเถอะไม่ไปอ่ะ หลังจากที่ปฎิเสธไปแล้ว ก็คิดว่า แล้วเย็นนี้จะกินไรดีหว่า ว่าแล้วก็นึกขึ้นมาได้ พาสต้าดีกว่า ไม่ได้กินมาตั้งนานแล้ว กินพาสต้าครั้งสุดท้าย ก็เมื่อครั้งที่ปุ๊อยู่เมลเบิร์น นานมากแล้วใช่ม๊า ว่าแล้วก็ตัดสินใจ ไปลองร้านพาสต้าที่ถนน Bourke ตัดกับ Crossley St. ซึ่ง Crossley เป็นถนนเส้นเล็กๆ ที่อยู่ระหว่าง Exhibition และ Spring ชื่อร้านนี้แหละ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ในร้านไม่ค่อยมีที่นั่งมากนัก ที่นั่งในร้าน เค้าจัดเป็น เหมือน บาร์ เป็นสองแถว และด้วยความที่เป็นเย็นวันศุกร์ ร้านก็ค่อนข้างจะคึกคัก คนนั่งกันเกือบเต็มร้าน บีพอเห็นว่ามีที่ว่าง ก็เสียบ เจ้าของร้านและพนักงานเป็นคนอิตาเลี่ยน พนักงานและเจ้าของดูจะอารมณ์ดีกันมาก เสริฟไป คุยเล่นกะลูกค้าไป นอกจากนั้นแล้วยังมีร้องเพลงอีกตะหาก ...
ในร้านเล็กๆร้านนี้ มีเมนูไม่ให้สั่งอยู่ไม่กี่อย่าง รายการอาหารแปะอยู่บนผนังกลางร้าน ที่อ่านแล้วรู้จักก็เห็นจะมีไม่กี่อย่าง เช่าน ลาซานย่า สปาเกตตี้ มาริอาน่า ริซอตโต้ แล้วก็ สปาเกตตี้ซอสเนื้อ แต่ที่เห็นเค้ายกออกมาเสริฟตลอดเวลาเนื่องจากคนสั่งเยอะก็เห็นจะเป็น ลาซานย่า และ สปาเกตตี้ทะเล หลังจากที่ตัดสินใจอยู่สักพัก ก็เลือกสั่งสปาเกตตี้ทะเลตามที่เห็นอยู่ข้างล่าง อุดมไปด้วยสัตว์ทะเลน้อยใหญ่ สปาเกตตี้ พูนจาน
หลังจากชิมแล้ว รสชาติผ่าน จริงๆไม่ใช่แค่ผ่าน อร่อยเลยล่ะ รสชาติดี ทีเดียว
หลังจากชิมไปได้สักพักใหญ่ ก็เห็น เค้ายืนคั้นน้ำส้มอยู่ข้างหน้า หลังจากได้กลิ่นน้ำส้มแล้ว เห็นทีจะต้องลองสั่ง มาชิม น้ำส้มคั้นสด รสชาติเหมือนส้มเช้ง อร่อยดี ปล. รายการเครื่องดื่มร้านนี้ก็มี น้ำส้ม น้ำแตงโม น้ำเปล่า และ กาแฟ ... มีเท่านี้จริงๆ
หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว จริงๆร้านนี้เค้าก็มีขนมด้วย เช่น แอปเปิ้ลสตรูเดิ้ล ชีสเค๊ก พุดดิ้ง และเค๊กชอกโกแลต หน้าตามันจะบ้านๆ เข้าใจว่าเป็น homemade แต่บีไม่เหลือท้องไว้กินขนมแล้ว แค่นี้ก็พุงเป่งจะแย่ หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ได้เวลาเดินกลับบ้าน จริงๆการที่เลือกกินร้านไกลๆบ้าน ก็นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะทำให้มีโอกาสได้เดินย่อย ถึงบ้านก็นอนเล่นได้โดยไม่ถึงกะอึดอัดมาก

--->แล้วก็อิ่มอร่อยไปอีกหนึ่งมื้อ<---

Tuesday, November 6, 2007

Melbourne Cup Day

วันนี้เป็นวันหยุดของเมืองเมลเบิร์น เนื่องในโอกาส วันแข่งม้าแห่งเมือง หรือที่เรียกกันว่า Racing Day, Spring Carnival, Melbourne Cup
วันนี้ ผู้คนก็จะแต่งตัวดีๆ ผู้ชายใส่สูทผูกไทด์ ผู้หญิงเก๊าะใส่กระโปรงและที่สำคัญเลยต้องมีหมวก
เค้าแข่งกันที่หมวกเลยทีเดียวไปดูม้าแข่งที่สนาม ส่วนในเมือง ก็จะมีแหล่งรับพนัน หรือเรียกง่ายๆว่า รับแทงม้า กันเกลื่อนกลาด ขนาดใน ออฟฟิศ ยังมีรับแทง โดยกติกามีว่า จ่าย 5 เหรียญ เพื่อแทงม้าหนึ่งเบอร์ ถ้าม้าตัวที่แทงเข้าที่หนึ่งก็จะได้ 70 ที่สองก็ 60 ที่สามก็ 50 ถ้าเข้าที่โหล่ ก็ได้ 5 เหรียญ อิ อิ อิ ที่รู้กติกามารยาทเช่นนี้ เพราะเค้าส่ง อีเมล์มาบอกคนทั้งทีมก็ว่าได้ แต่ใคร ใคร่แทงก็แทง บีคนนึงที่ไม่แทง เก็บเงินห้าเหรียญเอาไว้ซื้อท๊อฟฟี่ฝากน้องธีร์ให้ฟันแปดซี่ที่มีอยู่ผุเล่นดีกว่า อันนี้ ได้กินชัวร์ๆ

ในเมื่อวันนี้เป็นหยุดและแดดก็ออก จะนอนอยู่บ้านเฉยๆก็กระไรอยู่ แต่งตัวออกไปเดินเล่นดีกว่า ไปไหนมาบ้างเหรอ ก็ไม่ไกล อิ อิ อิ เดินเล่นแถวบ้าน เริ่มจากเมลเบิร์นเซ็นทรัล เข้าห้าง Myer และปิดท้ายด้วย David Jones ช่วงนี้ ถ้าเดินเข้าห้างต่างๆ จะเห็นได้ว่า เค้าเริ่มประดับ ตกแต่งร้าน ด้วย theme คริสต์มาสกันแล้ว จะเห็นต้นคริสต์มาสกันดาษดื่น


แต่สิ่งที่บีเห็นแล้วสนใจ ก็คือของเล่นพวกนี้ น่ารักดีทีเดียว ราคาแพงอยู่ เหมาะกะการ ยืนดูเฉยๆเป็นอย่างยิ่ง

รูปที่เห็นทั้งหมดนี้ ได้มาจากร้าน David Jones และรูปข้างล่างนี้มาจากร้าน Target

และเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ร้านรวงต่างๆที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าก็พากันหยุดหมด หรือถ้าเปิดก็เปิดแค่เที่ยงวัน หลังจากแวะชมเป็นที่อิ่มตาแล้วก็แวะกินเย็นตาโฟแสนอร่อยปิดท้าย ที่แถวร้าน Target เพื่อให้อิ่มท้อง จากนั้นก็เดินทางกลับมาบ้าน นอน \(--,)/ พักผ่อนอย่างเพียงพอ ... อิ อิ อิ

Friday, November 2, 2007

ขนมญี่ปุ่น สุดอร่อย

ที่เมลเบิร์น มีร้านอาหารญี่ปุ่นในดวงใจอยู่ร้านนึง ชื่อ Japanese Cafe Restaurant www.sushiburger.com.au ร้านนี้มีอาหารอร่อยสุดยอดหลายอย่าง ใช้เวลาทำนานมาก กว่าจะประดิษฐ์ประดอยเสร็จ ถ้าจะไปนั่งกินที่ร้านควรจะเตรียมหนังสือไปด้วย เพราะกว่าจะได้กิน ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 นาทีแน่นอน ถ้าคิดจะไปกิน ก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจแขวนท้องไปนั่งรอได้เลย เมนูที่อร่อยถูกใจสุดยอด ก็คือ sushi burger เป็น เบอร์เกอร์ข้าว มีให้เลือกกินหลายไส้ ที่บีสั่งบ่อยๆ ก็จะมีสองไส้ tempura burger กับ ebi mayo burger หลังจากที่กินแต่เบอร์เกอร์มาหลายที พยายามจะสั่ง daifuku มากิน ก็จะได้คำตอบกลับมาทุกครั้งว่า เสียใจด้วยนะ ขนมวันนี้ไม่มี คนทำขนมไปญี่ปุ่นยังไม่กลับ หลังจากเพียรพยายามอยู่หลายรอบ ... หึ หึ หึ ... ในที่สุด ...

วันนี้คนทำขนมก็กลับมา ... วันนี้เดินไปที่ร้านหลังจากที่สั่ง ebi mayo sushi burger มาหนึ่งชิ้น กลับบ้านก็หันไปเห็น daifuku ในตู้ ซึ่งมีแค่สองชิ้นเท่านั้น เค้าเขียนว่า Ichigo Daifuku โอ้ว!!! ไดฟุกุ ไส้สตรอเบอรี่ นั่นเอง ... เลยรีบหันไปบอกคนจดออเดอร์ว่า เหมา เอาสองก้อนในตู้มาให้หมด ... อิ อิ อิ ... หลังจากสั่งเสร็จแล้ว ก็ต้องไปเดินเล่นฆ่าเวลาสักสิบห้านาที ให้เวลาเค้าทำ burger สักหน่อย ปรากฎว่าเดินไปเดินมาผ่านไปครึ่งชั่วโมง รีบเดินกลับมาเอาอาหาร ปรากฎว่า ในตู้ ก็ยังไม่เห็น daifuku เพิ่มในตู้ พอถามเค้า เค้าบอกว่า อ๋อ วันนึงเราทำไม่กี่ชิ้นค่ะ หมดแล้ว หมดเลย ... นึกในใจอยากกินที นี่แสนจะลำบาก ถ้ามาสาย อด!!! เอาเถอะ วันนี้เรามีกินแล้ว ...
พอกลับมาถึงบ้าน ลิ้มรส burger สุดอร่อยไปแล้ว ก็ลอง daifuku ไส้ สตรอเบอรี่ ...

ชิมซิ ชิม



หุ หุ หุ อร่อยสุดยอดจริงๆคับ ... อร่อยมากๆ ติดใจ ติดใจ ชอบสุดๆ