Tuesday, March 20, 2007

ประสบการ์ณ เฉียด ...

หลังจากผ่านชีวิตที่เศร้าสร้อยในช่วงเที่ยง ด้วยความยุ่งมาก ทำให้ต้อง bypass อาหารกลางวันไปโดยอัตโนมัติ หลังจากทำงานแก้ไขปัญหาผ่านพ้นไปได้ก็บ่ายโมง บ่ายโมงก็มีนัดประชุม จับปลาประจำอาทิตย์ ซึ่งการจับปลานี้ ค่อนข้างจะน่าเบื่อแต่โดดไม่ได้ ถ้าโดดอาจถูกตัดจิตพิสัย เลยต้องจำใจเข้าทุกอาทิตย์

เอาล่ะ หลังจากผ่านชีวิตอดมื้อไปแล้ว ตกเย็นวันนี้ ตั้งใจไว้ว่าจะพยายามเคลียร์งานต่างๆให้เสร็จภายใน หกโมงครึ่ง และเมื่อถึง 6:30pm ก็มีวี่แววว่าจะสามารถ จรลีออกจากออฟฟิศได้ จึงเดินไปนัดแนะกะน้องว่า เฮ้ย !!! ไปยัง ... เสียงไอ้น้องตอบกลับมาว่า ได้พี่ เจอกันชั้น G เลยละกัน ... โอเค แยกย้ายกันไปเก็บของตามระเบียบรัตน์ เอ้ย ระเบียบพัก พอเก็บของเสร็จ ก็เดินถือกระเป๋า ออกมา กดลิฟต์ รอ ... รอ ... รอ

ปิ๊ง ... เสียงลิฟต์ ลิฟต์มาละ ... ก็เดินเข้าไป ... อ่ะ เห็นด้วยหางตาไวๆ ว่ามีคนวิ่งมา จะขอร่วมเดินทางไปด้วย ความที่เป็นคนดีก็เลยกดลิฟต์ปิด เอ้ย ไม่ใช่ ... กดรอ ... พร้อม ... สองชีวิต มีอีกมั้ย ... อ่ะ ไม่มี กดปิด ... ลิฟต์ เบอร์ 7 จำได้แม่น ก็ปิดประตูและเคลื่อนที่ลงไปอย่างช้าๆได้ครู่เดียว ครู่เดียวจริงๆ หลังจากนั้นก็กระตุก ... อืม คงไม่มีไร ... ยังไม่ทันสิ้นคิด ... ลิฟต์มันเกิดอาการร่วง ร่วง กระตุก หยุด ... (ใช้คำว่าร่วง เพราะมันร่วงจริงๆ) ... แล้วก็ ร่วง ร่วง กระตุก หยุด !!! เฮ้ย โดยไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องบอก ไม่ต้องนัด รีบกระโดดไปกดปุ่ม Emergency Stop ในทันใด ... กดรัว กดรัว ... อ่ะ มันหยุดแล้ว ... รอสักพัก ... อืม มันหยุดจริง ... หยุดไปเลย ... กดปุ่มใดๆ ไม่ติดอีกเลยทีนี้ ... แล้วไงอ่ะ ... มีปุ่มเดียวทีใช้การได้ ... ปุ่มกระดิ่ง ... กด กริ๊ง กริ๊ง ... กริ๊ง กริ๊ง ... กดแล้วไงอ่ะ กดแล้ว ก็ไม่มีไรเกิดขึ้น ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่รับผิดชอบ กริ๊ง กริ๊ง ... เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับเช่นเดิม ... คนที่อยู่ในลิฟต์อีกคน ก็เหลือบไปเห็นว่า มีโทรศัพท์ ... ไหนลองโทรสิ ... ยกหูขึ้น ฟัง ... เงียบ ... เอ่อ ซวยแล้ว ... ด้วยความที่เค้าเป็นคนไม่ย่อท้อ เค้าเลยลองยกหูโทรอีกรอบ ... อาฮ่า ... คราวนี้มีคนรับ เป็น operator สาว ... รับเรื่องไว้ แล้วจะพยายามติดต่อ ช่างให้ คาดว่า อีก 20 นาที ถ้าโชคดี จะติด่อเจอช่าง ... เอิ่ม 20 นาที ... แล้วตรูจะทำไรล่ะเนี่ย ... ก็เลยนั่งรอ ... รอสักพัก คนอีกคนในลิฟต์ถามว่า เอ่อ เริ่มร้อนมั้ย ... เออ จริงด้วย เริ่มร้อน ช่างเหมือนในหนัง ... ติดในลิฟต์มันจะเริ่มร้อน ... นิยายชัดๆ

รอสักประมาณ 20 นาที ลิฟต์ก็เริ่มขยับตัว ... ด้วยความเร็ว ร่วง อีกครั้ง ร่วง ร่วง กระตุก ... เฮ้ย ... แล้วมันก็เคลื่อน พร้อมกับกระตุกอีกที พร้อมกะเห็นไฟขึ้นว่า ชั้น G กลั้นหายใจไปประมาณ 15 วินาที ประตูมันก็เริ่มเปิด แต่เปิดออกมา ลิฟต์อยู่ตำกว่า level G ประมาณนึง ถึงกับต้องปีนขึ้นมา ... เอาวะ ควรจะต้องรีบปีนก่อนจะไม่มีโอกาสได้ปีน ... คิดได้ดังนั้น ก็ รีบกระโดดดึ๊บ ออกมาจากลิฟต์ ... พอออกจากลิฟต์มาได้ หายใจลึกๆเข้าปอดหนึ่งเฮือก แล้วหันไปบอกผู้ร่วมชะตากรรมว่า "Have a good evening"

นี่ ... ถ้ามันร่วงเร็วกว่านี้และร่วงไปเลย นี่คงไม่สามารถ โทรไปร่ำลาใครได้ เนื่องจาก Optus ทรยศ ไม่มีสัญญาณ เงียบสนิท


เฮ้อ ... เกือบไปแล้วนะ บี ... เกือบไป


3 comments:

Cherry & Tee said...

เล่าไม่ขำเลยอ่ะ ไม่ใส่ประโยคแบบที่ป๊าบอก เช่น "ฝันร้ายของคนที่ดูหนัง ฝันที่เป็นจริงของน้าบี" หรือ "free fall ตกถึงพื้นก็ไม่ถึงมือกาชาดหรอก กลายเป็นน้ำผลไม้ไม่เหลือซากแล้น" เป็นต้น ทำเป็นเล่าเครียด เหอ เหอ เหอ

be lorkittivanich said...

ธีร์บอก่า จ่ายมาห้าบาทแล้วจะขำ

Cherry & Tee said...

ลิฟท์กับออย เอ้ย!
แหม..เล่นมุขแบบนี้ อ่านแล้วรู้อายุคนเขียนเลยนิ)
ลิฟท์ตกแบบนี้ ฝันร้ายของคนดูหนังจริงๆนะ

สงสัยต่อไปว่า ถ้าเราเดาว่าลิฟท์มันกำลังจะถึงพื้น
แล้วกระโดดเนี่ย จะรอดไหม..

ผ่านวันแบบนี้มาได้
บีคงเลิกขึ้นลิฟท์เบอร์7ไปอีกหลายวันเนาะ

ปล.
อู๊ย แค่อ่านเรื่องนี้ แล้วคิดภาพตามก็เสียวเกร็งสุดๆแล้ว
ดูดิ๊ คนบางคนยังจะพยายามให้ขำอีก หุหุ :-)