เคยลองนึกกันหรือเปล่า ว่า เพื่อนที่ทุกๆวันนี้คบกันมา เรารู้จักกันมากี่ปีแล้ว สำหรับ บี เพื่อนที่คบกันนานมากที่สุดเห็นจะคบกันมา 25 ปีละโดยประมาณการ รู้จักกันตั้งแต่ ป.มูล (เข้าใจว่า เทียบชั้นอนุบาลสามนะ ที่เขมะฯ จะมีชั้น ป.มูล ก่อนขึ้นชั้น ป. 1) จนปัจจุบันนี้เราก็ยังรู้จักกันอยู่ ได้คุยอัพเดทกันบ้างตามที่โอกาสจะอำนวย เพื่อนคนนี้มันชื่อ ฝน ไอ้ฝนเล่าว่า ตอนเด็กๆ มันจะเกลียดหน้าบีมาก เพราะว่า บีเป็นคนดี และ เรียบร้อย :P ฮ่า ฮ่า ฮ่า รู้จักกันมาหลายปีดีดัก มาสนิทสนมกลมเกลียวกันตั้งแต่ตอนที่มีเหตุให้ย้ายโรงเรียนไปอยู่ที่เบญจมฯ ความบังเอิญทำให้ต้องอยู่ห้องเดียวกัน ความดีและความเรียบร้อยในตัวบีเริ่มหายไปในสายตามัน เรากินขนมในห้องเรียนด้วยกัน โดดเรียนพร้อมกัน เล่นเกมส์ในห้องเวลาเรียนด้วยกัน(พูดให้ดูดีแต่จริงๆแล้วคือเล่นไพ่ Slave) แล้วบางทีก็โดนทำโทษพร้อมกัน พูดถึงไอ้ฝนแค่นี้พอ เพราะบล็อคนี้เรื่องที่จะพูดถึง ไม่ใช่เรื่องมัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า
จะว่าไปชีวิตที่โรงเรียนสมัย มัธยมปลาย ไม่เหมือนไปโรงเรียน เหมือนไปเล่นกับเพื่อนมากกว่า ช่วงนั้นเลยเป็นช่วงติดเพื่อนช่วงหนึ่งของชีวิต สนุกสนาน เฮฮาไปวันๆ ตื่นเช้าไปโรงเรียน เริ่มกิจวัตรประจำวันด้วยการนั่งตุ๊กๆ ไปบ้านเพื่อนเพื่อขอกินโจ๊ก จนหลังๆกลายเป็นกิจวัตรประจำ หรือไม่ก็ไปโรงเรียนแต่เช้าเพื่อเล่นบาสฯบ้าง เดินไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูเด้งในซอยข้างโรงเรียนบ้าง บางทีก็ปีนรั้วกำแพงไปสั่งอาหารเช้าบ้าง สร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิตก่อนเข้าห้องเรียนเพื่อไปนั่งเล่นในห้อง เอาข้าวที่เสี่ยงชีวิตสั่งเมื่อเช้าหนึ่งห่อ มาแบ่งกันกินในห้องระหว่างที่อาจารย์ก็สอนกันไป กินขนมในห้องเรียนบ้าง ตามประสาเด็กกำลังโต เมนูยอดฮิตคือ ไวไวแห้งใส่เครื่องปรุง เป็นไวไวร่วมสาบานมาก ห่อเดียวกินกันหลายคน เที่ยง กินข้าวที่วัด เหมือนเป็นเด็กวัด ถ้าใครเคยผ่านไปแถวโรงเรียนเบญจมฯ จะรู้ว่า โรงเรียนอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดสุทัศน์ ข้ามถนนไปก็ถึง พูดถึงวัดกะโรงเรียน มีเรื่องเล่าที่จำได้แม่นอยู่เรีองหนึ่ง มีอยู่ครั้งนึง เพื่อนคนหนึ่งกำลังจะเรียกตุ๊กๆ เพื่อหนีโรงเรียนไปกินขนม แต่โชคร้าย อาจารย์มาจับได้เสียก่อน อาจารย์ถามว่า จะไปไหนกัน เพื่อนมันตอบว่า "เราจะไปวัดสุทัศน์กันค่ะ" อาจารย์ถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้จะด่าว่าอย่างไรดี ให้สมกะความกะล่อนของมัน เลยทำแค่ลากตัวกลับเข้ามาในโรงเรียน กิจกรรมหลังโรงเรียนเลิกส่วนมากก็คือเล่นบาสฯ(อ่านดูแล้วเหมือนชีวิตนักกีฬาเนอะ เล่นบาสฯทั้งวัน นี่ถ้าแม่ส่งเสริมสักหน่อย อาจจะได้ติดทีมชาติกะเค้าบ้างก็เป็นได้)ถ้าไม่เล่นบาสฯ ก็เดินทางไปหาของกิน แถวโรงเรียน ซึ่งขนมแถวโรงเรียนที่ยอดฮิต ก็ไม่พ้น มนต์นมสด สมัยที่ยังไม่ติดแอร์ ยังเป็นร้านเล็กๆ อยู่ข้างคลอง บีว่า รสชาติดีกว่า ปัจจุบันนะ ก็สมัยนั้น เจ้าของมนต์เค้าลงมือทำให้กินด้วยตัวเองนี่หน่า หลังจากอิ่มท้องแล้ว ก็จะเดินกลับบ้าน ในเวลาเย็นย่ำ การที่กลับบ้านกันเย็นย่ำเพื่อให้ผู้ปกครองได้มีโอกาสว่ากล่าวกันบ้าง กลัวชีวิตจะเงียบเหงาเกินไป ไม่มีใครคุยด้วย
สงสัยล่ะสิ ว่าทำไม วันนี้มานั่งระลึกความหลัง เหตุเป็นเพราะว่า วันนี้มีโอกาสได้พบเพื่อนเก่าสมัยมัธยมปลายหลังจากที่เราไม่ได้เจอหน้าเจอตากันมาปีกว่า ไม่อยากจะบอกว่าเรามีชื่อกลุ่มกันด้วยนะ เสมือนหนึ่งเป็น Gangster ชื่อว่า "Fainoi Group®" จำไม่ได้แล้วว่า ได้ชื่อนี้มายังไง เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนคนใดอ่านแล้วจำได้ว่า ชื่อกลุ่มมาเช่นไร ช่วยบอกที บีจำไม่ได้ละ
ไม่น่าเชื่อว่าพวกเราจะคบกันได้ยาวนาน ปีนี้ก็เป็นที่16แล้วกระมั๊ง โดยการนับแบบคร่าวๆ (สิบหกปี แห่งความหลังงงงงง)ผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย ร้องไห้ด้วยกันก็หลายหน หัวเราะด้วยกันก็มากมาย วันนี้กลับบ้านว่างๆก็เลยถือโอกาส เปิดอัลบั้ม รำลึกความหลังดูรูปสมัยยังละอ่อนดูซะหน่อย พอดูรูปแล้วรู้สึกฮา หน้าตาตัวเอง ขำมาก ขำหน้าตัวเองคนเดียวยังไม่พอ ยังได้ขำหน้าเพื่อนๆอีก กาลเวลามันทำให้หน้าคนเปลี่ยนไปเหมือนกันเนอะ
คราวนี้จะขำคนเดียวคงไม่พอ ต้องเอารูปมาขึ้นบล็อคเพื่อประจานกันเลยดีกว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า แกล้งเพื่อนนี่สนุกดีเนอะ โดยเฉพาะ เวลาแกล้งแล้วเพื่อนเอาคืนไม่ได้ (ไว้มีโอกาสต้องลงรูปอัพเดทล่าสุด ดูพัฒนาการของแต่ละคน) หุ หุ หุ
"Good friends are like stars. You don't always see them, but you know they are always there"
ปล. ขอบคุณนะ ที่ไม่เคยทิ้งกันเลยที่ผ่านมา ขอบคุณมากสำหรับทุกๆความทรงจำ และสุดท้าย ขอบคุณสำหรับความเป็นเพื่อนที่มีให้กันและกัน