Tuesday, April 8, 2008

หัวหินเป็นถิ่นสำราญ ตอนแรก

หลังจากที่เพียรพยายามหาโรงแรมที่พัก ที่หัวหินกันอย่างบ้าคลั่งเกือบอาทิตย์ criteria ของเราก็คือ มีที่พักสำหรับเจ็ดชีวิต อยู่ติดทะเล และ มีสระว่ายน้ำ เพื่อให้ หลานร๊าก ลงไปเล่นน้ำได้ เนื่องจากลงทุนกะอุปกรณ์ดีเด่นไปแล้ว ในที่สุดเราก็สามารถหาที่พักได้ เกือบครบ criteria เสียอย่างเดียวก็คือ ที่พักที่เราได้ ไม่ติดทะเล ไปเห็นของจริงแล้ว ก็ไม่น่าเกลียด ก็โอเคอยู่

หลังจากที่ติดต่อหาที่พักได้แล้ว วันเสาร์ที่ 5 เมษายน ก็ได้ฤกษ์ออกเดินทาง ทุกคน กระตือรือร้นกันมาก พยายามสุดฤทธิ์ ที่จะไม่ทำตัวให้เป็นจุดอ่อน โดนกำจัด ... คาดว่า ไม่เกิน เก้าโมงครึ่ง เราก็ได้เริ่มออกเดินทางจากบ้านสายสี่ โดยมีบีเป็นพลขับ ออกไปยังไม่พ้นประตูบ้านก็มีเหตุให้ถอยรถกลับเข้าไปใหม่ เพื่อไปที่เปิดไวน์ หลังจากที่ได้ที่เปิดไวน์แล้ว พลขับบี ก็ทำแว่นกันแดดหายในบ้าน โดยไม่รู้ว่า หายที่ไหน กว่าจะรู้ตัว ก็ขับรถถึงไฟแดงสายสี่แล้ว เราก็ต้องวนรถ กลับบ้านใหม่อีกรอบนึง พอวนรถถึงบ้าน น้องธีร์ ถึงกะโวยวาย ... ไม่เอา ไม่เอา ธีร์จะไปเที่ยว ไม่กลับบ้าน ... หลังจากหาสมบัติของพลขับ บี เจอแล้ว ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางไปหัวหินอย่างจริงจัง

สถานีแรกที่เราตั้งใจจะหยุดก็คือ ปั๊มน้ำมัน ... พลขับ บี ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า จะหยุดที่ปั๊ม Jet ปั๊มอื่น เราไม่สนใจ ผ่านไปปั๊ม Jet แรก ที่ถนน ธนบุรี-ปากท่อ โอ้ แม่เจ้า ผู้คนล้นหลาม ไหลทะลัก อย่างกับว่า Jet แจกน้ำมันฟรี คนเติมน้ำมันเพียบ คนซื้อของเพียบ เอาวะ ไม่เติมก็ได้ มุ่งหน้ากันต่อไป จะเข้าเพชรบุรีแล้ว Jet ต่อไปก็ยังไม่มาให้เห็น ใกล้ถึงเพชรบุรี น้องธีร์สุดหล่อ ก็บอกกับทุกคนว่า "ธีร์ปวดอึ๊" โอ๊ะ โอ เอาล่ะสิ เราต้องเปลี่ยนเป้าหมายจาก ปั๊ม Jet เป็นสุขาน้อยให้สมธีร์ ดังนั้น สถานีแรกที่เราหยุดกันจริงๆ ก็คือ Big C เพชรบุรีนั่นเอง แวะเข้าไปเพื่อให้สมธีร์ทำธุระ แต่จริงๆแล้วสมธีร์ อาจจะไม่ปวดอย่างที่พูด ธุระครั้งนี้เลยไม่สำเร็จ ชาวคณะก็เลย เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าต่อไป และแล้ว เราก็มาเจอ ปั๊ม Jet อีกจนได้ คราวนี้ ได้เติมน้ำมัน สมใจ และ พี่ตี๋ คุณพ่อของน้องธีร์ ก็ตามมาสมทบได้พอดีที่ปั๊ม Jet แห่งนี้

หลังจากเติมน้ำมัน เติมน้ำจากบ้านไร่กาแฟไปแล้ว เราก็มุ่งหน้าต่อไป สถานีต่อไปของเราคือ สะพานปลา ที่ชะอำ เพื่อไปหม่ำอาหารทะเลมื้อเที่ยง (ปล. จำชื่อร้านไม่ได้อ่ะ แถม ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ด้วย อาจจะเกิดจากความหิวเลยไม่ทันมีความคิดว่า จะถ่ายรูป) มื้อเที่ยงวันนั้น อุดมสมบูรณ์ ไปด้วย กุ้ง หอย ปู และ ปลา อิ่มอร่อยกันอย่างไม่เกรงใจ สัตว์ทะเลทั้งหลายแล้ว คราวนี้ มุ่งหน้าอย่างจริงจัง เพื่อไปหัวหิน check in เข้าที่พัก

ประมาณ บ่ายสองโมง เราก็มาถึงหัวหิน เช็คอินเข้าที่พัก ที่โรงแรม Huahinwhitesand เป็นโรงแรมเล็กๆอยู่เยื้องๆกะโรงแรมโซฟิเทล พอเก็บข้าวเก็บของเสร็จ ก็ไม่รอช้า รีบเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ และ พาธีร์ ไปเล่นน้ำในสระของโรงแรม อย่างด่วน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ตอนลงไปเล่น ตอนนั้น มีคนเล่นอยู่ประมาณ สอง ถึง สามคน บีเล่นกะธีร์ก่อน จากนั้น เจ้รี่ และพี่ตี๋ก็ตามมา ป๊ากะม๊า เห็น ไม่ยอมน้อยหน้า เปลี่ยนชุดว่ายน้ำ ตามลงมาเล่นเหมือนกัน พอเราลงมาครบ คนอื่นๆ ก็สละสระว่ายน้ำให้กะเรา กลายเป็นสระว่ายน้ำ ของครอบครัวเราไป ดูรูปกันเลยดีกว่า

หลังจากเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานเสร็จแล้ว บีก็ตั้งใจว่าจะพาธีร์เดินไปทะเลสักหน่อย เลยเดินลัดเลาะ ทำเนียน เข้าไปในโรงแรมโซฟิเทล เพื่อจะไปหาดหน้าโรงแรม เดินเล่นกันสักพัก สมาชิกคนอื่นๆ ก็เดินตามมาเจอที่โรงแรมโซฟิเทล เราแวะเล่นกันที่สนามเด็กเล่นของโรงแรมก่อน ย้อนวัยกันเล็กน้อย แต่พองาม คนที่สนุกที่สุดเห็นจะเป็นมารแม่ และ นะบีของสมเธร์ ด้วยน้ำหนักตัวที่ไม่มีใครยอมใคร ไม้กระดกของเรามันเลยไม่กระดก ต้องมีตัวช่วยอย่างที่เห็นพอเล่นกันได้ที่เราก็มุ่งหน้าไปสู่ทะเล พอเท้าสัมผัส ทราย เราก็สามารถบอกได้ว่า โอ้ นี่หรือ ทราย ไฮโซ ช่างนุ่มเท้าดีแท้ :P กิจกรรม ริมชายหาดของเราก็คือ เรียกม้ามาให้ธีร์ ขี่ แล้ว โพสต์ท่าถ่ายรูปงามๆ ธีร์ชอบมาก ไม่มีความเกรงกลัวเลยสักนิด นั่งเฉยๆ ยอมนั่งนิ่งๆให้ถ่ายรูปกะม้าแต่โดยดี สามารถไปดูรูปธีร์ขี่ม้าได้ที่บล็อคมารแม่ รูปธีร์ขี่ม้าเราขอข้าม เอาของเล่นที่เค้าขายริมทะเลมาอวดแทนละกัน
หลังจากที่ถ่ายรูปกะม้าเสร็จ เราก็เดินลัดเลาะกันมาตามชายหาด เพื่อออกเดินทางตามล่า หาอาหารเย็น เดินกันแบบว่า ไม่รู้จะกินอะไรดี ผ่านร้านข้าวเหนียวมะม่วงป้าเจือ กะว่า จะเข้าไปซื้อสักสองกล่อง ปรากฎว่า ไปถึง ป้าเค้าขายข้าวเหนียวหมดละ เหลือแต่มะม่วง อดกินเลย ... เซ็งหมูหมัก (อุ๊บส์!!!)
แถวร้านขายมะม่วงมีร้านขายกาแฟหน้าตาดีด้วยนะ
เดินไปเรื่อยๆ ก็เห็นร้านอาหารร้านนึง ชื่อ ร้าน ชาวเล มั้งถ้าจำไม่ผิด เราก็เลี้ยวปร๊าด เข้าไปหม่ำอาหารเย็นกันที่นั่น ธีร์ได้ลองหม่ำเบียร์ไฮเนเก้นด้วยนะ นี่คือหน้าตาตอนชิมเบียร์และหลังชิม
พอหม่ำเสร็จ สถานีในดวงใจ สถานีต่อไป คือ ตลาดหัวหิน ยามค่ำคืน
ร้านไอติมยังคงขายดีอยู่ ร้านโรตี คนยังเยอะเหมือนเดิม ยังคงต้องต่อแถวซื้อ ร้านบัวลอย จำได้ว่าเคยมี แต่เดี๋ยวนี้เดินหา หาไม่เจอแล้ว เศร้าเจรงๆ ร้านขายขนมไข่เต่าลูกเล็กๆ ราคาลูกละ ห้าสิบสตางค์ ร้านข้าวโพดปิ้งสี่พี่น้อง ที่คนขาย เหมือนไม่อยากจะขาย ถามคำ ตอบเหมือนโกรธกัน ชิ

สรุปออกจากตลาดได้ของกินติดไม้ติดมือมาเป็น โรตี ขนมไข่เต่า ข้าวโพดปิ้ง และ มะม่วงน้ำปลาหวาน ส่วนไอติมนั้นหมดตั้งแต่ยังไม่ได้ออกจากตลาด

และแล้ว คนอัพบล็อคก็ขอจบรายการของวันนี้แต่เพียงเท่านี้ก่อนละกัน ชักขี้เกียจ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเล่าตอนต่อไปของหัวหินเป็นถิ่นสำราญให้ฟังต่อ ปิดท้ายวันนี้ ด้วยหนุ่ม หน้ามน แฟนสตาร์บัค รุ่นจิ๋ว

2 comments:

Anonymous said...

เมื่อ hack ไม่สำเร็จก็ ต้องกลับมา up-blog ตัวเองล่ะเส๊ะ...ภาระกิจที่มารแม่มอบหมายไว้...ก่อนพาลูกดื้อไปปลูกผักชี..จบแล้วคร๊าบตอนที่ 1

Anonymous said...

โถ อุตส่าห์วนรถกลับไปเอาที่เปิดขวดไวน์
แต่พอตกดึก กลับไม่กินกันซะนี่.... 555