จากเมลเบิร์น ก็มุ่งหน้าไป Mt. Buller ซึ่งขับไปทางเดียวกับที่จะไปซิดนีย์ แต่ซิดนีย์เหมือนจะต้องขับไปอีก เจ็ดร้อยกว่าโล ไกลโข ประมาณกรุงเทพเกือบๆเชียงใหม่ นั่งเครื่องเก๊าะชั่วโมงนึง แต่จากเมลเบิร์นไป Mt. Buller ใช้เวลาเดินทางถึง Mt. Buller ประมาณ สามชั่วโมงกว่าๆ เกือบสี่ชั่วโมง เมื่อไปถึงตีนเขา เค้าก็จะมีด่านตรวจเพื่อถามว่า มีโซ่ติดล้ออยู่ในรถหรือเปล่า ถ้าไม่มีเค้าไม่ให้ขึ้นเนื้องจากอันตราย เผื่อมีหิมะตก รถเราจะลงมาไม่ได้ถ้าไม่ได้ติดโซ่ ก็เลยต้องไปเช่า wheel chain ที่ร้านซึ่งอยู่ใกล้ๆด่านนั่นเอง เป็นเงินทั้งหมด 25 AUD ซึ่งโซ่ติดล้อนี้จะติดแค่สองล้อเท่านั้น หลังจากได้โซ่แล้ว ก็ต้องวนไปที่ด่านเพื่อจ่ายเงินค่าผ่านทางและค่าแท๊กซี่ขึ้น Mt Buller เนื่องจากตรง หมุ๋บ้านสกี เค้าจะให้ขึ้นได้เฉพาะคนที่มีบ้านอยู่บนนั้นเท่านั้น ถ้าเป็นนักท่องเที่ยว ต้องจอดรถตรงที่เค้าเตรียมไว้ให้แล้วเค้าจะส่ง แท๊กซี่มารับ ค่าเสียหายที่จ่ายตรงด่านก็ตกประมาณคนละ 45 เหรียญเนื่องจากเป็นวันศุกร์ เสาร์
ตอนก่อนไป ได้ดูพยากรณ์อากาศเค้าบอกว่า อากาศจะหนาวเย็นมาก ตั้งแต่ 5 องศาลงไปจนติดลบ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว มันก็หนาวอยู่ แต่ไม่ได้หนาวมากๆ เทียบกับในตัวเมืองแล้วบียังว่า เผลอๆ ตัวเมืองเมลเบิร์นหนาวเสียกว่าอีกนะ จะบอกให้ Mt. Buller นั้นเป็นแหล่งเล่นสกีขึ้นชื่อแห่งนึงของคนเมลเบิร์น เนื่องจากขับรถไปไม่ไกลมาก เค้าเรียกหมู่บ้านบนนั้นว่า Ski Village ข้างบนจะมีโรงเรียนสองเล่นสกีด้วย มีสอนตั้งแต่เด็กเล็กๆ เล็กมากๆ สาม สี่ขวบก็มีไปเรียนแล้ว
บ้านที่เราไปพัก ชื่อว่า Andre เจ้าของบ้านเป็นคุณลุง คุณป้า เค้าอาศัยอยู่ในบ้านนั้นด้วยแต่แบ่งห้องให้นักท่องเที่ยวเช่า ราคาที่พักนั้นแพงเอาการอยู่ คืนละ 3000 AUD มั้ง ถ้าจำไม่ผิด โดยคุณลุงกะคุณป้าจะทำอาหารเช้าให้กิน คุณป้านั้นเนี๊ยบมากๆ เจ้าระเบียบและจู้จี้สุดๆ มีกฎเหล็กว่า ห้ามเอาอาหารจากข้างนอกมากินในบ้าน ถ้ากินข้าวเช้า ต้องกินที่โต๊ะกินข้าวเท่านั้น ห้ามเอาไปกินที่อื่น โต๊ะกินข้าวมีที่นั่ง นั่งได้สิบคน เราไปกันสิบห้า คุณป้าบอกว่า ต้องผลัดกัน ใครกินเสร็จแล้วให้ลุก แล้วคนต่อไปถึงจะมากินได้ ข้าวเช้าจะเสริฟตั้งแต่ 7:00am - 9:00am เกินกว่านั้นไม่มีให้กิน อยู่ๆไปแล้วจะรู้สึกเหมือนอยู่หอพักโรงเรียนประจำ มีคุณครูเจ้าระเบียบคอยตรวจตราทุกฝีเก้า เนื่องจากวันศุกร์กว่าเราจะไปถึงก็ดึกมากแล้ว ก็เลยไม่มีกิจกรรมอะไรมาก กินขนม แล้วก็อาบน้ำ แปรงฟันเข้านอน เพื่อจะได้ตื่นมาตั้งแต่ 7 โมงเช้าเพื่อรับอาหารเช้าตามคำสั่งของเจ้าคุณป้า ลืมบอกไปว่า สัมผัสแรกที่ได้สัมผัส Mt Buller Village คือ ก้น พอหลังจากลงจากแท๊กซี่เพื่อจะเดินทางเข้าบ้าน ทางเข้าบ้านมันลื่นมากเนื่องจากพื้นมันเกาะเป็นน้ำแข็ง บีเดินแบกของไปได้หนึ่งก้าว ก็ตีลังกาหงายหลังไม่เป็นท่า ลงไปนั่งแหมะอยู่กะพื้น จะบอกว่า เจ็บก้นจริงๆนะ ผ่านมาสองวันแล้วยังเจ็บอยู่เลย ล้มแบบเต็มๆเลยนะนั่น นี่ไงทางเข้าบ้านพัก
วันอาทิตย์ ตื่นมาพร้อมกับแสงแรกของวัน ตื่นมาก็เห็นพระอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้นยอดเขา และมีนกแก้วสีแดงสามสี่ตัวมา ยืนโชว์ตัวอยู่ริมหน้าต่าง
หลังจากที่อิ่มอาหารเช้ากันแล้วก็เดินทางออกไปถ่ายรูป แช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ พอสักเที่ยงเราก็เรียกรถแท๊กซี่มารับที่บ้านพักเพื่อเดินทางไปเอารถและมุ่งหน้ากลับเมลเบิร์น
การเดินทางครั้งนี้ จะว่าสนุกก็สนุก เพราะเป็นการเล่นสกีครั้งแรกในชีวิต เจ็บก็เจ็บ เนื่องจาก ก้น แขน ขา ช้ำชอกไปหมดทั้งตัว เอาเป็นว่า ฝากไว้ก่อนละกันนะ Mt. Buller คราวหน้าเค้าจะไปลอง Snow Board ดูบ้าง ... อิ อิ อิ